เจียวก้านลอบขโมยจดหมาย

กลยุทธ์สยบมหาอำนาจ (7)

จิวยี่เจียวก้าน
จิวยี่เจียวก้าน

กลยุทธ์สยบมหาอำนาจ (7) : กลยุทธ์จารชนซ้อนกำจัดซัวมอสู่การพิชิตนอร์มังดี ตำราพิชัยสงครามซุนวูกล่าวไว้ในบทที่ 13ว่าด้วยเรื่องของ การใช้จารชน ไว้ดังนี้ เหตุที่ประมุขผู้ปรีชาแม่ทัพผู้สามารถ กรีธาทัพชนะศึกสำเร็จผลเหนือผู้อื่น ก็เพราะล่วงรู้ก่อน การล่วงรู้ก่อน มิควรพึงผีสางเทวดา มิควรยึดแบบอย่างในอดีต มิควรถือฤกษ์เบิกยาม แต่พึงเอาจากคน ผู้รู้สภาพข้าศึก ฉะนั้น การใช้จารชนมีห้า มีจารชนถิ่น มีจารชนใน มีจารชนซ้อน มีจารชนตาย มีจารชนเป็น ห้าจารชนใช้พร้อมกัน ข้าศึกมิรู้เหตุ นี้เรียกว่าอัศจรรย์ เป็นของวิเศษแห่งประมุข จารชนถิ่น คือใช้คนพื้นเมืองข้าศึก จารชนในคือใช้ขุนนางข้าศึก จารชนซ้อน คือใช้จารชนข้าศึก จารชนตายคือผู้กระจายข่าวลวง ให้จารชนเราทราบ เพื่อแพร่ยังจารชนข้าศึก จารชนเป็น คือผู้กลับมารายงาน

ในคราวศึกผาแดง จิวยี่ได้ใช้แผนซ้อนแผนจัดการจับสายลับฝั่งโจโฉก็คือ เจียวก้าน โดยที่ โจโฉให้เจียวก้านไปเกลี้ยกล่อม จิวยี่ให้ยอมแพ้ และ สืบความในกองทัพฝ่ายกังตั๋ง จิวยี่จึงซ้อนแผนปลอมจดหมายทิ้งไว้ให้เจียวก้านขโมยไปให้โจโฉ ใจความในจดหมายมีว่า “ชัวมอ เตียวอุ๋นแม่ทัพเรือของโจโฉจะมาสวามิภักดิ์ซุนกวน และจะลอบตัดหัวโจโฉมาให้ซุนกวนเพื่อแสดงความจริงใจ” หลังจากเจียวก้านอ่านจดหมายฉบับนี้จบ ก็ตกใจและรีบเอาจดหมายไปให้โจโฉ เป็นเหตุให้โจโฉโกรธและสั่งประหารชัวมอ เตียวอุ๋นในทันที โดยยังไม่ทันคิดหน้าคิดหลังให้ดี เมื่อคิดได้ว่าตัวเองถูกจิวยี่ซ้อนแผนจะไปห้ามเพชรฆาตไม่ให้ประหารก็ไม่ทัน การเสียแล้ว การที่โจโฉสั่งประหาร 2 แม่ทัพเรือโดยไม่คิดให้ดี ทำให้กองทัพเรือของโจโฉด้อยประสิทธิภาพลงไปอย่างมาก และส่งผลทำให้ภายหลังกองทัพเรือโจโฉต้องปราชัยอย่างย่อยยับ

เจียวก้านลอบขโมยจดหมาย
เจียวก้านลอบขโมยจดหมาย

ในเหตุการณ์ตอนนี้ถือว่ากองทัพจิวยี่ได้ใช้เจียวก้านเป็น จารชนซ้อน ในการตัดกำลังกองทัพโจโฉให้ด้อยประสิทธิภาพลง และนำไปสู่ความพ่ายแพ้ในสงครามทางเรือที่ตำบลเซ็กเพ็ก เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่อีกครั้งของโจโฉในเรื่องของการ ทำศึก การซ้อนแผนเช่นนี้มีการใช้อยู่หลายครั้ง ดังเช่นในสมัยสงครามโลก ฝ่ายสัมพันธมิตรพยายามทำทุกอย่างให้กองทัพเยอรมันคิดว่า ยุทธการโอเวอร์ลอร์ด(ชื่อแผนการยกพลขึ้นบกที่ฝรั่งเศส) ไม่ใช่การรุกรานแต่เป็นการเบี่ยงเบน จากการโจมตีหลักจากที่อื่นในวันอื่น ที่ประชุมเสนาธิการกองทัพสัมพันธมิตรตัดสินใจใช้สายลับสองหน้าหรือจารชนซ้อน ในการจัดการภารกิจ

ฝ่ายกองทัพเยอรมันได้ใช้ ฮวน พูจอร์ (มีรหัสว่า กาโบ) เพื่อเป็นสายลับในการล้วงความลับของอังกฤษ แต่เป็นฝ่ายอังกฤษเองที่ใช้กาโบเพื่อสอดแนมและลวงกองทัพเยอรมันในช่วงการ ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด กาโบได้ส่งสัญญาณไปยังเยอรมันเพื่อแจ้งว่า เค้าเห็นถุงใส่อาเจียนถูกแจกจ่ายให้ทหาร พร้อมกับแจ้งว่าจะมีการบุกรุกที่นอร์มังดี ทำให้กองทัพเยอรมันคิดว่าจะต้องการมียกพลขึ้นบกในไม่ช้านี้ ช่วงนี้นายพลรอมเมลถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ป้องกันฝรั่งเศสและพบว่าแนวป้องกัน ชายฝั่งมีปืนต่อต้านอากาศยานไม่เพียงพอจึงทำเรื่องขอไปยังเบอร์ลินแต่ทว่า ทางเบอร์ลินปฏิเสธ รอมเมลจึงต้องเดินทางไปพบฮิตเลอร์ด้วยตัวเอง ทำให้การบัญชาการรบในแนวป้องกันที่นอร์มังดีขาดผู้บัญชาการ

ฮวนพูจอร์
ฮวนพูจอร์

ในช่วงเช้าของวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1944 กองทัพเยอรมันได้สั่งให้กองทหารในพื้นที่โดยรอบไปรวมตัวกันเพื่อป้องกันชาย หาด ส่วนอังกฤษก็ได้สั่งให้กาโบได้ส่งข้อความไปถึงเยอรมันว่ามีการเปลี่ยนแปลงใน แผนการจะมีการยกทัพครั้งใหญ่หลังจากนี้ที่ปาเดอร์กาเล่ ทำให้เกิดความสับสนที่กองบัญชาการใหญ่เยอรมันถึงเป้าหมายที่แท้จริง ว่าพันธมิตรจะยึดที่ไหนกันแน่ระหว่าง นอร์มังดี หรือ ปาเดอร์กาเล่ จนท้ายที่สุดกองบัญชาการใหญ่เยอรมันในเบอร์ลินก็เชื่อสิ่งที่กาโบบอกมาคือจะ มีการโจมตีครั้งใหญ่ที่ปาเดอร์กาเล่ เป็นผลให้การป้องกันนอร์มังดีไม่เต็ม 100% และแล้ว กองทัพสัมพันธมิตรก็สามารถเข้ายึดชายฝั่งฝรั่งเศสที่นอร์มังดีได้ทั้งหมดและ สัมพันธมิตรสามารถขนทหารขึ้นฝั่งได้กว่า 150,000 คน และการปลดปล่อยฝรั่งเศสกำลังจะเริ่มขึ้น

ยกพลขึ้นบก
ยกพลขึ้นบก

สาเหตุที่นอร์มังดีโดนอังกฤษยึดนั้นเป็นเพราะว่า ฝ่ายอังกฤษสามารถเปลี่ยนสายลับของเยอรมันให้กลายเป็นสายลับของตนและให้ปล่อย ข่าวการโจมตีนอร์มังดีซึ่งเปนข่าวจริงให้เยอรมันรู้ก่อน แล้วค่อยปล่อยข่าวการโจมตีที่ปาเดอร์กาเล่ซึ่งเปนข่าวลวงไปภายหลัง ทำให้กองกำลังเยอรมันคิดว่าการบุกนอร์มังดีเป็นแค่กลลวงเท่านั้น เยอรมันจึงไม่สามารถป้องกันชายฝั่งได้เต็มที่

จากเหตุการณ์ที่ผมนำมาให้ทุกท่านได้อ่านนั้น การใช้จารชนซ้อนเป็นอะไรที่สุดยอดมากเพราะสามารถทำให้ฝ่ายที่ส่งจารชนหรือ สายลับ เกิดความสับสนและพ่ายแพ้ในที่สุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *