5ราชวงศ์10แคว้น

ยุค 5 ราชวงศ์ 10 แคว้น

5ราชวงศ์10แคว้น
5ราชวงศ์10แคว้น

ยุค 5 ราชวงศ์ 10 แคว้น ยุคอู่ไต้สือกั๋ว (ห้าราชวงศ์สิบแคว้น) เป็นช่วงที่ประเทศจีนวุ่นวาย และเกิดความเสียหายมากที่สุดช่วงหนึ่ง นับตั้งแต่กษัตริย์ไปจนถึงขุนนางชั้นผู้น้อย ยากที่จะหาผู้ที่มีความเมตตาได้ อีกทั้งเกิดสงคราม มีการเพิ่มภาษี แม้แต่เมืองที่มีชื่อเสียงอย่างเมืองฉางอานและลั่วหยางก็ยังถูกเผาทำลาย ดังนั้นคนโบราณจึงเรียกยุคนี้ว่า อู้จี้ (ห้ายุคยอดแย่) หมายถึงยุคที่แย่ที่สุด 5 สมัย อย่างเช่น เครื่องมือทรมานนักโทษที่โฆดเหี้ยมและทารุณมากที่สุดชนิดต่างๆ อาทิ หลิงฉี (การเฉือนเนื้อคนเป็นชิ้นๆ จนตาย) ก็ปรากฏขึ้นในสมัยนี้

สิบแคว้น

ปลายราชวงศ์ถัง เนื่องจากเกิดศึกสงครามทางภาคเหนือ เป็นเหตุให้ราษฎรละทิ้งที่ดินทำกิน ประชากรเบาบางลง ขณะที่เงื่อนไขทางสังคมทางภาคใต้ค่อนข้างสงบมั่นคงกว่า เศรษฐกิจก็ได้รับการพัฒนารุ่งเรืองขึ้น อาจกล่าวได้ว่า ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยห้าราชวงศ์ ได้เกิดการโอนถ่ายศูนย์กลางทางเศรษฐกิจจากแถบลุ่มแม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำ เหลือง ลงสู่เขตลุ่มแม่น้ำฉางเจียงหรือแยงซี

กลุ่มเมืองสำคัญทางตอนใต้ขยายตัวเติบโตขึ้น กลุ่มแรงงานฝีมืออาทิ การต่อเรือ หล่อโลหะ การพิมพ์ ทอผ้าเป็นต้น ที่ส่งผลต่อการพัฒนาการผลิตทวีความสำคัญขึ้น การค้าขายระหว่างท้องถิ่นกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญของแว่นแคว้นทางตอนใต้ แดนเจียงหนันกลายเป็นแหล่งชุมนุมของปราชญ์กวีที่มีความสามารถ

แคว้นอู๋และหนันถัง (ปี 902 – 975)

หยางสิงมี่ ผู้สถาปนาแคว้นอู๋ เดิมเป็นแม่ทัพรักษาแดนหวยหนัน (ในมณฑลอันฮุย) แห่งราชวงศ์ถัง ปี 902 ราชสำนักถังแต่งตั้งให้เป็นอู๋หวัง พื้นที่ในปกครองได้แก่ เจียงซู อันฮุย เหอหนัน บางส่วนของหูเป่ยและเจียงซี โดยมีศูนย์กลางที่เมืองหยางโจว ภายหลังสืบทอดตำแหน่งทางสายเลือดต่อต่อมา แต่เกิดแย่งชิงอำนาจกันภายใน เป็นเหตุให้เสนาบดีสีว์เวิน มีโอกาสแทรกตัวเข้ามายึดอำนาจทางทหารไว้ จากนั้นยกบุตรคนรองของหยางสิงมี่หยางเว่ย ขึ้นครองบัลลังก์ โดยตระกูลสีว์กุมอำนาจทั้งมวลไว้

จวบจนปี 937 สีว์เวินสิ้น สีว์จือเก้า บุตรบุญธรรมของสีว์เวินขึ้นสู่อำนาจแทน เจ้าแคว้นอู๋ ‘ สละราชบัลลังก์ ‘ สีว์จือเก้าจึงกลับมาใช้แซ่หลี่ สถาปนาแคว้นหนันถัง โดยมีนครหลวงที่เมืองจินหลิง (เมืองหนันจิงในปัจจุบัน) สีว์จือเก้าดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับแว่นแคว้นรอบข้าง ทำให้บ้านเมืองปลอดภัยสงคราม สภาพสังคมเศรษฐกิจได้รับการฟื้นฟูเข้มแข็งขึ้น ปี 943 สีว์จือเก้าสิ้น บุตรชายหลี่จิ่ง* ครองราชย์สืบต่อมา เป็นช่วงเวลาที่หนันถังรุ่งเรืองขึ้นมา เริ่มทำสงครามขยายอาณาเขต กลายเป็นแคว้นมหาอำนาจทางตอนใต้ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ภายในราชสำนักฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม บ้านเมืองเสื่อมทรุดลง ปี 958 หนันถังยอมสวามิภักดิ์กับราชวงศ์โฮ่วโจวพร้อมกับยอมยกดินแดนบางส่วนให้ ปี 961 หลี่จิ่งสิ้น หลี่อี้ว์ ขึ้นครองราชย์ต่อมา จวบจนปี 975 ราชวงศ์ซ่งกรีฑาทัพลงใต้ หนันถังล่มสลาย

เฉียนสู (ปี 907 – 925)และโฮ่วสู (ปี 934 – 965)

หวังเจี้ยน พ่อเมืองปี้โจว มีฐานอำนาจในแดนเสฉวนและฮั่นจงตั้งแต่ปี 894 หลังจากราชวงศ์ถังล่มสลาย ก็ตั้งตนเป็นใหญ่ที่เมืองเฉิงตู สถาปนาแคว้นเฉียนสู ดินแดนในปกครองได้แก่ เสฉวน กันซู่ ส่านซีและหูเป่ย(บางส่วน) หวังเจี้ยนดำเนินนโยบายเชิงรับ ไม่เน้นการใช้กำลังทหารกับภายนอกหากไม่จำเป็น จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดินแดนแถบนี้ยังคงความสงบสุขและพัฒนาขึ้น

แต่เนื่องจากในช่วงปลายรัชกาลหวาดระแวงขุนศึกเก่าแก่ข้างกาย จึงกำจัดเสียมากมาย ภายในราชสำนักเริ่มฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ปี 918 หวังเจี้ยนสิ้น เกิดการแก่งแย่งช่วงชิงในราชสำนัก สุดท้ายแม้ว่าหวังเหยี่ยน ขึ้นครองราชย์ต่อมา แต่ไม่สนใจราชกิจเพียงคิดหาความสำราญ ปี 925 กองทัพของราชวงศ์โฮ่วถังบุกเข้าสู่นครหลวงเฉิงตู แคว้นเฉียนสูล่มสลาย

เมิ่งจือเสียง เป็นหลานเขยของหลี่เคอย่ง ในรัชกาลถังจวงจงแห่งโฮ่วถัง เป็นที่โปรดปรานยิ่ง จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้ตรวจการแดนเจี้ยนหนัน(เสฉวนตะวันตก) ต่อมาเกิดเหตุวุ่นวายในราชสำนัก ถังจวงจงสิ้น ถังหมิงจงขึ้นครองราชย์ เมิ่งจือเสียงทราบว่าราชสำนักโฮ่วถังอ่อนแอลง จึงคิดตั้งตนเป็นอิสระ ไม่รับฟังคำสั่งจากส่วนกลางอีก ปี 930 เมิ่งจือเสียงชักชวนต่งจาง แม่ทัพรักษาแดนเสฉวนตะวันออกลุกฮือขึ้นก่อการ แต่ภายหลังเกิดขัดแย้งกันเอง ต่งจางพ่ายแพ้ถูกสังหาร เมิ่งจือเสียงจึงสามารถยึดครองดินแดนเสฉวนทั้งหมด ฝ่ายราชสำนักโฮ่วถังได้แต่ส่งหนังสือแต่งตั้งเมิ่งจือเสียงเป็นสูหวัง (เจ้าแคว้นสู)

ปี 934 เมิ่งจือเสียงสถาปนาแคว้นโฮ่วสู ครองราชย์ได้ครึ่งปีก็สิ้น บุตรชายเมิ่งฉั่ง รับสืบทอดอำนาจต่อมา มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบการปกครอง พัฒนาการผลิต ก่อตั้งสถานศึกษา สังคมเศรษฐกิจมีความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่าเป็นเขตที่มีเศรษฐกิจและวัฒนธรรมรุ่งเรืองเคียงคู่กันมากับ แคว้นหนันถัง ปี 965 ถูกราชวงศ์ซ่งล้มล้างไป

แคว้นอู๋เยี่ยว์ (ปี 907 – 978)

ปลายราชวงศ์ถัง เฉียนหลิว เดิมเป็นพ่อค้าเกลือเถื่อน ต่อมาสมัครเป็นทหารรับจ้าง ไต่เต้าจนกระทั่งได้เป็นแม่ทัพรักษาดินแดนชายฝั่งทะเลตะวันออก กุมอำนาจในดินแดนแถบเจียงหนันไว้ได้ (มณฑลเจ้อเจียงและเจียงซู) ปี 902 ถังเจาจงตั้งให้เป็นเยี่ยว์หวัง ปี 904 ตั้งให้เป็นอู๋หวัง ภายหลังเมื่อจูเวินสถาปนาโฮ่วเหลียง ตั้งให้เป็นอู๋เยี่ยว์หวัง มีนครหลวงที่เมืองหังโจว

แคว้นอู๋เยี่ยว์แม้มีพื้นที่แคบเล็ก แต่อุดมสมบูรณ์ และถึงแม้จะมีกำลังทหารไม่มากนัก แต่แคว้นอู๋เยี่ยว์มีท่าทีอ่อนน้อมต่อราชสำนักในภาคกลาง จึงสามารถป้องกันการรุกรานจากแว่นแคว้นที่เข้มแข็งรอบข้าง สภาพเศรษฐกิจรุ่งเรือง สังคมสงบร่มเย็น จวบจนปี 978 เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรซ่ง นับเป็นแคว้นที่มีเวลาปกครองยาวนานที่สุดในยุคนี้

แคว้นฉู่ (ปีค.ศ. 897 – 951)

ปลายราชวงศ์ถัง หม่าอิน ตั้งตัวเป็นใหญ่ที่หูหนัน หลังจากราชวงศ์ถังล่มสลาย โฮ่วเหลียงแต่งตั้งเป็นฉู่หวัง มีศูนย์กลางที่เมืองถานโจว(เมืองฉางซาในปัจจุบัน) หลังหม่าอินสิ้น เกิดการแย่งชิงอำนาจภายในวุ่นวาย ปี 951 จึงถูกหนันถังล้มล้างไป

แคว้นหมิ่น (ปีค.ศ. 909 – 945)

ปลายราชวงศ์ถัง หวังเฉา และหวังเสิ่นจือ สองพี่น้องต่อสู้ยึดครองดินแดนฝูเจี้ยน ถังเจาจงแต่งตั้งหวังเฉาเป็นแม่ทัพรักษาดินแดน ภายหลังหวังเสิ่นจือสืบทอดตำแหน่งต่อมา ปี 909 โฮ่วเหลียงตั้งเป็นหมิ่นหวัง สภาพโดยรวมสงบมั่นคงดี แต่หลังจากหวังเสิ่นจือสิ้น การเมืองภายในปั่นป่วนวุ่นวาย ผู้สืบทอดล้วนแต่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ทั้งเหี้ยมโหดมากระแวง จนกระทั่งปี 945 ถูกแคว้นหนันถังกวาดล้างไป

หนันฮั่น (ปีค.ศ. 917 -971)

ปลายราชวงศ์ถัง หลิวอิ่น ดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพรักษาแดนหลิ่งหนัน (มณฑลกว่างตงและกว่างซี) ปี 917 หลิวเหยียน น้องชายได้รับสืบทอดตำแหน่งต่อมา สถาปนาแคว้นเยี่ยว์ มีนครหลวงที่เมืองกว่างโจว ปีถัดมาเปลี่ยนชื่อเป็นฮั่น ประวัติศาสตร์ขนานนามว่า หนันฮั่น ปี 971 ถูกราชวงศ์ซ่งล้มล้างไป

หนันผิง (ปีค.ศ. 907 – 963)

ปี 907 โฮ่วเหลียงแต่งตั้งเกาจี้ซิง เป็นแม่ทัพรักษาแดนจิงหนัน(มณฑลหูเป่ย) ปี 924 โฮ่วถังแต่งตั้งเป็นหนันผิงหวัง มีศูนย์กลางที่เมืองเจียงหลิง ถือเป็นแคว้นที่มีกำลังอ่อนด้อยที่สุดในบรรดาสิบแคว้น

ปี 963 ราชวงศ์ซ่งล้มล้างไป

เป่ยฮั่น (ปีค.ศ.951 – 979)

ในบรรดาสิบแคว้น มีแว่นแคว้นหนึ่งเดียวที่อยู่ทางเหนือ คือเป่ยฮั่น ผู้ก่อตั้งคือหลิวฉง น้องชายของหลิวจือหย่วนแห่งราชวงศ์โฮ่วฮั่น ปี 951 เมื่อกัวเวยสถาปนาโฮ่วโจวขึ้นแทนที่โฮ่วฮั่น หลิวฉงก็เข้ายึดครองแดนไท่หยวนไว้ ตั้งตนเป็นกษัตริย์ และยังคงใช้ชื่อราชวงศ์ฮั่นสืบต่อมา ประวัติศาสตร์จีนขนานนามว่า เป่ยฮั่น(ฮั่นเหนือ)

เป่ยฮั่นเป็นแดนทุรกันดาร ราษฎรอดอยากยากจน แต่เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากชนเผ่าชี่ตัน จึงยังคงรักษาดินแดนไว้ได้ สภาพสังคมเต็มไปด้วยข้อพิพาทขัดแย้ง ปี 979 ราชวงศ์ซ่งกรีฑาทัพเข้าสู่ไท่หยวน เป่ยฮั่นสิ้นสุดลง

ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ บริเวณพื้นที่รอบนอกเขตแดนต่อแดนของอาณาจักรจีน ยังมีกลุ่มชนเผ่าที่ตั้งตนเป็นอำนาจรัฐอิสระขึ้น ที่สำคัญได้แก่ หลิวโส่วกวง สถาปนารัฐเอี้ยน ที่แดนเหอเป่ย (ปี 895 – 913) บริเวณชิงไห่และทิเบตมีถู่ฟาน แถบหยุนหนันจากแคว้นน่านเจ้าเดิม กลายเป็นต้าฉางเหอ ( 902 – 928) ต้าเทียงซิ่ง ( 928 – 929) ต้าอี้หนิง ( 929 – 937)ภายหลังเป็นต้าหลี่หรือตาลีฟู ( 937 – 1254) ภาคอีสานมีแคว้นป๋อไห่ ( 713 – 926) แถบมองโกเลียในมีชนเผ่าชี่ตัน นำโดยเยลี่ว์อาเป่าจีที่มีกำลังกล้าแข็งขึ้น ปี 916 สถาปนาแคว้นชี่ตัน จากนั้นกวาดรวมแคว้นป๋อไห่เข้าด้วยกัน นำกองกำลังรุกเข้าสู่ภาคกลาง จวบจนปี 947 เปลี่ยนชื่อแคว้นเป็นเหลียว กลายเป็นขุมกำลังที่ตั้งประจันกับราชวงศ์ซ่งเหนือ ในเวลาต่อมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *