กำแพงเมืองจีน หลังจากราชวงศ์ฉิน มาสู่ ราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์สุย ราชวงศ์หมิง กับราชวงศ์ที่ปกครองแผ่นดินทางเหนืออยู่ยาวนาน เช่น ราชวงศ์เป่ยเว่ย ราชวงศ์เป่ยโจว ราชวงศ์เลี๋ยว ราชวงศ์จิน เป็นต้น ล้วนเคยสร้างกำแพงแบบเดียวกันนี้ สำหรับกำแพงที่พวกเราเห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นกำแพงที่สร้างขึ้นในราชวงศ์หมิง เริ่มทางตะวันตกที่ เมือง เจีย ยวี่ กวน ของมณฑล กันซู ถึงตะวันออกที่ เมือง ซาน ไห่ กวน ของมณฑล เหอเป่ย ประมาณว่ามีความยาว 12,000 ลี้ เส้นทางผ่านของกำแพงสายนี้ กับสายของราชวงศ์ฉิน ไม่เหมือนกัน
ไม่ว่าสมัยราชวงศ์ฉิน หรือสมัยราชวงศ์หมิง การสร้างกำแพงเต็มไปด้วยความยากลำบาก กำแพงหมื่นลี้ส่วนใหญ่สร้างบนภูเขาสูง วัสดุที่ใช้ก่อสร้างมีหลายขนาด ขนาดเล็กอาจมีน้ำหนักหลายสิบชั่ง ขนาดใหญ่อาจมีน้ำหนักหลายพันชั่ง ( 1 ชั่ง = ครึ่งกิโลกรัม โดยประมาณ ) สมัยนั้น ไม่มีรถยนต์ ไม่มีรถไฟ ไม่มีปั้นจั่น ไม่มีเครื่องมือสำหรับยกของหนัก การยกสิ่งของที่หนัก พันชั่ง ร้อยชั่ง จากเชิงเขาสู่ยอดเขา ย่อมเป็นความลำบากสุดที่จะพรรณนา กำแพงเมืองจีนในส่วนของเมือง ปาต๋าหลิ่ง ( ใกล้กรุงปักกิ่ง ) ใช้คนหลายพันคนซ่อมสร้างเมื่อหลายสิบที่ผ่านมา ในเวลา 1 ปี ได้ระยะเพียง 200 เมตร มองย้อนกลับไปในสมัยราชวงศ์หมิง ที่ปกครองประเทศกว่า 200 ปี ประวัติศาสตร์การก่อสร้างกำแพงในสมัยนั้น กว่าจะได้ระยะ 200 เมตร คงจะต้องใช้เวลาหลาย ๆ ปีทีเดียว
ประวัติศาสตร์ของกำแพงเมืองจีนซึ่งทำให้เห็นการรวมประเทศที่มีความปลอดภัย นั้น ยังนำมาซึ่งข้อดีให้เห็นอีกหลายประการ แต่ว่าการสร้างกำแพงนี้ก็ได้นำ ความทุกข์ระทม มหาศาลมาสู่ประชาชนด้วย มีเหตุการณ์ในสมัยราชวงศ์ฉินเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ณ เวลานั้นประชากรจีนมีอยู่ประมาณ 20 ล้านคน เป็นประชากรที่อยู่ในวัยทำงานไม่ถึง 10 ล้านคน จำนวนทหารและชาวบ้าน ก่อนและหลัง การสร้างกำแพง มีอยู่ประมาณ 4 ล้านคน เกือบจะเท่ากับแรงงานทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วประเทศ ดังนั้น ตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น เป็นต้นมา จึงมีประชาชนจำนวนไม่น้อยต่อต้านการสร้างกำแพง กำเนิดเป็น บทกวี บทเพลง และนิทาน เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องระหว่างการสร้างกำแพงกับทุกข์ระทมของประชาชน แพร่หลายท่ามกลางหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง เรื่องที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ กำแพงร้องไห้ของ เมิ่ง เจียน นวี่
เล่ากันว่า คู่ภริยา-สามี สาวหนุ่มคู่หนึ่ง ในเขตปกครอง ส่านซี คือ เมิ่ง เจียน นวี่ กับสามี ฟ่าน ฉี่ เลี๋ยง ที่เพิ่งแต่งงานกัน ต้องพรากจากกันเนื่องจาก ฟ่าน ฉี่ เลี๋ยง ถูกจักรพรรดิจิ๋นซี นำตัวไปสร้างกำแพง เพียงแค่จากกันก็นับได้หลายปี เมิ่ง เจียน นวี่ คิดถึงและเป็นห่วงสามีทั้งวัน ทั้งคืน เธอเห็นว่าสามีจากไปหลายปีแล้วไม่กลับมา จึงเก็บเสื้อหอบผ้าไปที่กำแพงเพื่อตามหาสามี เธอแวะเวียนไปหลายต่อหลายแห่งก็ไม่พบแม้แต่เงาของสามี วันหนึ่งที่บริเวณเขตก่อสร้าง ซานไห่กวน ได้พบเพื่อนคนหนึ่ง ของ ฟ่าน ฉี่ เลี๋ยง จึงทราบว่า ฟ่าน ฉี่ เลี๋ยง ตายแล้ว เมิ่ง เจียน นวี่ ถึงกับใจแตกสลาย ร่ำไห้คร่ำครวญไม่หยุดหย่อน ร่ำไห้ไปจนถึงตัวกำแพง จักรพรรดิทราบข่าวจึงให้คนไปจับตัว เมิ่ง เจียน นวี่ มาลงโทษ เธอทราบข่าวเช่นนั้น ตั้งใจไม่ยอมตายในอุ้งพระหัตถ์จอมจักรพรรดิ จึงกระโดดลงทะเลฆ่าตัวตายจากไป ภายหลังผู้คนต้องการรำลึกถึงชะตากรรมการอุทิศชีวิตเพื่อความรัก จึงได้สร้างศาล เมิ่ง เจียน นวี่ ขึ้นที่ ซานไห่กวน นั่นเอง
แท้จริงแล้วการตายของ ฟ่าน ฉี่ เลี๋ยง กับเมิ่ง เจียน นวี่ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ จอมจักรพรรดิจิ๋นซี เรื่องของ เมิ่ง เจียน นวี่ มีมาก่อนรัชสมัยของจักรพรรดิจิ๋นซี และอีกอย่างหนึ่ง ในสมัยราชวงศ์ฉิน ไม่มีการสร้างกำแพง ที่ ซานไห่กวน การผูกเรื่อง เมิ่ง เจียน นวี่ กับจักรพรรดิจิ๋นซีเข้าด้วยกันนั้น เป็นผลงานของกวีผู้หนึ่ง ภายหลังผู้คนนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นของการต่อต้านการสร้างกำแพงเมืองจีนเท ่านั้น ศาล เมิ่ง เจียน นวี่ ในปัจจุบันนั้น ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1594
วันนี้กำแพงเมืองจีน ไม่เพียงความอลังการของมันที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ยังเป็นศิลปะวัฒนธรรมที่เก่าแก่และสำคัญยิ่งของประเทศจีน ที่นำผู้ชำนาญการด้านต่าง ๆ เข้ามาศึกษาและวิจัย รัฐบาลจีน ได้มีการดำเนินงานอนุรักษ์และฟื้นฟูกำแพงยาวนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั้งจากในประเทศและจากต่างประเทศ มีผู้คนส่งเงินให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการซ่อมแซมกำแพงหมื ่นลี้เหล่านี้ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา กำแพงหลายส่วนถูกบูรณะแล้ว จึงนับเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งสำหรับการท่องเที่ยวและการศึกษาวิจัยถึงความริเ ริ่มของการสร้างกำแพงมหัศจรรย์ของโลก แห่งนี้