โจโฉแตกทัพ

กลยุทธ์สยบมหาอำนาจ (6)

โจโฉแตกทัพ
โจโฉแตกทัพ

กลยุทธ์สยบมหาอำนาจ (6) : การล้อมจับโจโฉสู่การป้องกันเมืองถลาง ตำรา 36 กลยุทธ์ บทที่ 7 กล่าว ในเรื่อง กลยุทธ์มีในไม่มี กลยุทธ์นี้มีความหมายว่า ให้ใช้ภาพลวงล่อหลอกข้าศึก แต่มิใช้จะล่อลวงจนถึงที่สุด หากแต่เพื่อแปรเปลี่ยนจากลวงเป็นจริง ทำให้ข้าศึกเกิดความหลงผิด ที่ว่า “ลวง” ก็คือ “หลอกลวง” ที่ว่า “มืด” ก็คือ “เท็จ” จากมืดน้อยไปถึงมืดมาก จากมืดมากแปรเปลี่ยนเป็นสว่างแจ้ง ก็คือใช้ภาพลวงปกปิดภาพจริง ผันจากเท็จลวงให้กลายเป็นแท้จริงแท้ นี้เป็นเรื่องในการศึกเท็จลวงและแท้จริงแท้สลับกันเป็นฟันปลา ในจริงมีเท็จ ในเท็จมีจริง “มีในไม่มี” หมายถึงกลอุบายซึ่ง “จริงในเท็จ” ที่ใช้ภาพลวงล่อหลอกข้าศึก ให้ข้าศึกเกิดความหลงผิดอย่างหนึ่ง

ในสมัยสามก๊กหลังจากโจโฉแตกทัพเรือที่ตำบลเซ็กเพ็ก ทำให้ต้องหนีกลับเมืองหลวง โดยระหว่างทาง โจโฉและเหล่าทหารโดนแม่ทัพของเล่าปี่สกัดไว้ทั้งจูล่งและเตียวหุย แต่ก็รอดมาได้ จนกระทั่งโจโฉเมื่อถึงตำบลฮิวหลิม เจอทางแยก 2 ทางทางนึงมีควันไฟสุมอยู่ อีกทาง ไม่มีควันไฟอยู่ มีคนแนะนำให้โจโฉไปทางที่ไม่มีไฟแต่โจโฉบอกแก่ผู้ติดตามว่า “ถ้าขงเบ้งวางแผนจะจับเรา คงจุดควันไฟเพื่อล่อให้เราไปอีกทางที่ไม่มีควัน แล้วคงจะให้ทหารมาดักจับเรา ฉะนั้นเราต้องไปเส้นทางที่มีควันไฟ”หลังจากนั้นโจโฉก็เดินทางไปที่มีควันไฟ

ปรากฏว่าโจโฉหลงกลขงเบ้ง(เพราขงเบ้งคาดการณ์ไว้แล้วว่าโจโฉต้องคิดแบบนี้จึง คิดซ้อนกลโจโฉอีกที) ทำให้โจโฉได้พบกวนอู ทหารวุยทั้งหมดอ่อนแรงทันทีที่เห็นกวนอู โจโฉจึงร้องไห้ รำพึงว่าไม่รอด เป็นแน่ เตียวเลี้ยวจึงแนะนำให้โจโฉยกบุญคุณที่เคยปล่อยกวนอูที่เมืองแห้ฝือและเคย ให้ บำเหน็จ รางวัลรวมถึงม้าเช็กเทา โจโฉพูดคุยกับกวนอูตามที่เตียวเลี้ยวแนะนำ กวนอูก็ใจอ่อนสำนึกในบุญคุณจึงยอม ปล่อยโจโฉไป

เหตุการณ์ครั้งนี้หากกวนอูใจแข็งซักหน่อยโจโฉคงต้องเสียหัวไว้ที่ตำบลฮัว หลิม สาเหตุเป็นเพราะโจโฉไม่อาจแยกแยะจริงเท็จในวินาทีแห่งวิกฤติได้ สำหรับสยามประเทศได้มีผู้ที่ได้ใช้กลยุทธ์จนชนะข้าศึกมาแล้ว ท่านนั้นก็คือ ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร แห่งเมืองถลาง โดยมีเหตุการณ์ดังนี้

ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร
ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร

ครั้งสงคราม 9 ทัพ กองทัพพม่า นำโดยแมงยี แมงช่องกยอ นำพล 10,000 คน เข้าตีหัวเมืองทางชายฝั่งทะเลตะวันตก ตั้งแต่เมืองกระ ตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง ค่ายปากพระ โดยมีเป้าหมายสุดท้ายที่เมืองถลาง ข่าวทัพเรือพม่าบุกโจมตีทางใต้ทำให้ ท่านผู้หญิงจันและคุณ มุกน้องสาว ได้รวมพลจากบ้านสาคู บ้านในยาง บ้านดอน บ้านไม้ขาว บ้านแขนน บ้านลิพอน บ้านเหรียงมาเตรียมการรบ ณ ค่ายข้างวัดพระนางสร้าง

ฝ่ายพม่ายกทัพเข้ามาเร่งก่อสร้างค่ายบริเวณทุ่งนา (โคกชนะพม่า) เพื่อเตรียมโจมตีเมืองถลาง ส่วนท่านผู้หญิงจัน คุณมุกและคณะกรมการเมืองวางแผนตั้งค่ายประชิดค่ายข้าศึก เตรียมปืนใหญ่ตรึงไว้ดึงเวลาได้หลายวันเป็นผลให้เสบียงอาหารของพม่าลดน้อยลง และวางแผนให้กลุ่มผู้หญิงแต่งตัวคล้ายทหารไทย เอาไม้ทองหลางเคลือบดีบุกมาถือแทนอาวุธ ทำทียกขบวนเข้าเมืองถลางในช่วงดึกลวงพม่าว่าเมืองถลางมีกำลังมาเสริมทุกคืน ทำให้พม่าคาดการณ์กองกำลังเมืองถลางผิดพลาด การศึกครั้งนี้กินเวลายาวนานถึง 1 เดือนเศษ กองทัพพม่าเห็นดังนั้นจึงคิดว่ากองทัพเมืองถลางมีทหารมาก จึงเกิดความหวาดหวั่นประกอบด้วยกำลังขาดเสบียงฝ่ายเมืองถลางเห็นได้ทีจึง ระดมยิงปืนใหญ่เข้าไปยังค่ายพม่า ทำให้ค่าพม่าระส่ำระส่ายมากขึ้น ครั้นเมื่อชาวเมืองถลางยิงปืนใหญ่แม่นางกลางเมืองถูกต้นทองหลางหน้าค่ายพม่า หักลง กองทัพพม่าเสียขวัญเป็นอย่างมาก และแตกทัพไปเมื่อวันจันทร์ เดือน 4 แรม 14 ค่ำ ปีมะเส็ง สัปตศก จุลศักราช 1147 ตรงกับวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2328

กลยุทธที่ใช้กันข้างต้น มีอยู่ใจตำราพิชัยสงครามชื่อ “อุ้ยเหลียวจือ อำนาจศึก” ซึ่งกล่าวว่า “อำนาจศึกอยู่ที่วิถีอันทำได้ ผู้มีจักไม่มี ผู้ไม่มีจักมี” ในบทที่ 34 ของ “คัมภีร์เหล่าจื่อเล่มหลัง” ก็กล่าวไว้ว่า “สรรพสิ่งใต้หล้าเกิดจากมี บางก็เกิดจากไม่มี”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *